ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี เลือกแบบไหน ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี เลือกแบบไหน ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 2024

ฝ้า เป็นปัญหาผิวกวนใจของใครหลายคน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ในปัจจุบันมีครีมทาฝ้ามากมายวางขายในตลาด การเลือกครีมทาฝ้าให้ได้ผลจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ฝ้า มีกี่ประเภท ครีมที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดฝ้า มีอะไรบ้าง และควรเลือกครีมทาฝ้าแบบไหนให้เหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด นอกจากนี้แล้วควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าครีมนั้นได้ผลจริง

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้กันก่อนว่า ฝ้า (Melasma) คืออะไร

ฝ้า (Melasma) คือ ภาวะที่ผิวหนังบนใบหน้ามีสีคล้ำ เกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินทำงานมากผิดปกติ ส่งผลให้มีการกระจุกตัวของเม็ดสี เมลานิน บริเวณชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ เกิดเป็นรอยคล้ำบนใบหน้า ฝ้าพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มักเกิดบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม แก้ม กราม และริมฝีปากบน

สาเหตุที่ทำให้เกิด ฝ้า มีอะไรบ้าง

1. ฮอร์โมน

ฮอร์โมนเพศหญิง เช่น เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้าได้ง่าย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ ผู้ที่ทานยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด หรือผู้หญิงที่ตั้งครรภ์

2. รังสียูวี

แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า แสงแดดประกอบด้วยรังสียูวีเอ (UVA) และรังสียูวีบี (UVB) ซึ่งรังสียูวีเอสามารถผ่านกระจกได้ และกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้า

3. พันธุกรรม

คนที่มีพ่อแม่เป็นฝ้า มีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าคนทั่วไป

4. ปัจจัยอื่นๆ สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้

ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้ปวดบางชนิด ยาต้านเศร้า
ความเครียด
การนอนหลับไม่เพียงพอ
มลภาวะ

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

ประเภทของ ฝ้า และลักษณะอาการของฝ้าประเภทต่างๆที่เกิดขึ้นบนใบหน้า

ฝ้าบนใบหน้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

1. ฝ้าตื้น (Epidermal melasma)

  • เกิดขึ้นที่ชั้นหนังกำพร้า
  • ลักษณะเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาลอ่อน ขอบเขตชัดเจน
  • มักพบบริเวณโหนกแก้ม แก้ม และหน้าผาก
  • ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี

2. ฝ้าลึก (Dermal melasma)

  • เกิดขึ้นที่ชั้นหนังแท้
  • ลักษณะเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาลเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน
  • มักพบบริเวณโหนกแก้ม แก้ม และริมฝีปากบน
  • ตอบสนองต่อการรักษาได้ยาก

3. ฝ้าผสม (Mixed melasma)

  • เป็นฝ้าชนิดผสมระหว่างฝ้าตื้นและฝ้าลึก
  • ลักษณะเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาล ขอบเขตไม่ชัดเจน
  • มักพบบริเวณโหนกแก้ม แก้ม และหน้าผาก
  • การรักษาจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนของฝ้าตื้นและฝ้าลึก

4. ฝ้าฮอร์โมน

  • มักเกิดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
  • เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • ลักษณะเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาล ขอบเขตไม่ชัดเจน
  • มักพบบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม แก้ม และกราม

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

นอกจากนี้ ฝ้ายังสามารถแบ่งออกตามระดับความลึกได้ดังนี้

ฝ้าระดับตื้น: อยู่ชั้นหนังกำพร้า เห็นเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาลอ่อน ขอบเขตชัดเจน รักษาได้ง่าย
ฝ้าระดับปานกลาง: อยู่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ เห็นเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาลเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน รักษาได้ยากกว่าฝ้าระดับตื้น
ฝ้าระดับลึก: อยู่ชั้นหนังแท้ เห็นเป็นรอยคล้ำ สีน้ำตาลเข้ม หรือม่วงอมเทา ขอบเขตไม่ชัดเจน รักษาได้ยาก

ฝ้า มักเกิดขึ้นที่ไหน

ฝ้ามักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อย เช่น

  • โหนกแก้ม
  • หน้าผาก
  • แก้ม
  • คาง
  • ไรหนวด
  • ริมฝีปากบน

วิธีป้องกันฝ้า

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดด
    แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 น. – 16.00 น.
    สวมหมวก กางร่ม ใส่แว่นกันแดด
    ทาครีมกันแดดเป็นประจำ SPF 30 ขึ้นไป ควรทาก่อนออกแดด 30 นาที และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง
  2. ดูแลผิวหน้า
    ล้างหน้าให้สะอาด เช้า-เย็น
    ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
    ผลัดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ (2-3 ครั้งต่อสัปดาห์)
    งดการแคะ แกะ เกา คัน บริเวณใบหน้า
  3. ดูแลสุขภาพ
    ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้
    ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    ควบคุมความเครียด
  4. เลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ
    ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้ปวดบางชนิด ยาต้านเศร้า
    ความร้อน
    มลภาวะ
  5. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
    ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาและป้องกันฝ้าที่เหมาะสม

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

วิธีรักษาและดูแลผิวที่เกิดฝ้า

การรักษาฝ้า

ยาทา: ให้มองหายาทาที่มีส่วนผสมของ hydroquinone, kojic acid, arbutin, azelaic acid, tranexamic acid
ยาประทาน: ยาที่มีส่วนผสมของ tranexamic acid, melasma pills
เลเซอร์: เลเซอร์บางชนิด เช่น Q-switched Nd:YAG laser, IPL
การผลัดผิว: การผลัดผิวด้วย AHA, BHA

การดูแลผิว

หลีกเลี่ยงแสงแดด: ทาครีมกันแดดเป็นประจำ SPF 30 ขึ้นไป สวมหมวก กางร่ม ใส่แว่นกันแดด
ดูแลผิวหน้า: ล้างหน้าให้สะอาด เช้า-เย็น ทาครีมบำรุงผิว ผลัดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ งดการแคะ แกะ เกา คัน บริเวณใบหน้า
ดูแลสุขภาพ: ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมความเครียด

ข้อแนะนำ

  • การรักษาฝ้าต้องใช้เวลาและความอดทน
  • ผลการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
  • ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาและดูแลผิวที่เหมาะสม

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

วิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติ

มะขามเปียก: นำมะขามเปียกมาพอกหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ขมิ้น: ผสมผงขมิ้นกับน้ำสะอาด ทาบางๆ บริเวณที่มีฝ้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ว่านหางจระเข้: นำว่านหางจระเข้มาทาบริเวณที่มีฝ้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การรักษาฝ้าแบบธรรมชาติอาจเห็นผลช้า
ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้
ไม่ควรใช้กับผิวที่มีบาดแผล

ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี

ครีมทาฝ้า เนื้อเซรั่มสูตรเข้มข้น

ALESE DARK SPOT AND ANTI MELASMA
ครีมทาฝ้า บอกลาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ กระจ่างใส ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวใต้ผิวหนัง ป้องกันฝ้าเก่าไม่กลับมาเป็นซ้ำ บำรุงผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สีผิวสม่ำเสมอ ผิวเด้ง เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น แข็งแรง ช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน เนื้อเซรั่มกึ่งครีมซึมไวไม่มันไม่เหนียวเหนอะหนะสามารถสามารถใช้ได้ทั้งเช้าเย็น และใช้ก่อนแต่งหน้าได้ ปลอบประโลมผิวเป็นเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ที่สำคัญเลยคือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อีกด้วยให้ผิวหน้าดูแลดูกระจ่างใสรู้สึกได้ใน 7 วัน

  • ลดโอกาสการเกิดฝ้าใหม่ ป้องกันฝ้าเก่าไม่กลับมาเป็นซ้า
  • ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน
  • บำรุงผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติสีผิวสม่าเสมอ
  • ผิวนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง
  • อ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

ส่วนผสมหลัก ครีมทาฝ้า บอกลาฝ้า กระ จุดด่างดำ

  • MELATEIN-X สารสกัดไวท์เทนนิ่ง ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวประสิทธิภาพออกฤทธิ์ได้มากกว่า ARBUTIN ถึง 80 เท่า
  • MELAZERO ช่วยสลายเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินบนผิวหนัง
  • BRIGHLETTE มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งกลไกที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ทุกกลไก
  • VC-IP มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส ลดฝ้ากระจุดด่างดำ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • PENTAVITIN ช่วยในการเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน
  • Tranexamic acid ช่วยปรับผิว ให้กระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ผิวคล้ำหรือเป็นฝ้า โดยมีสาเหตุจากแสงแดด
  • Dragon Blood มีคุณสมบัติช่วยชะลอและลดเลือนริ้วรอย ลบเลือนรอยแผลเป็น ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ รังสียูวี มลภาวะที่เป็นพิษ ช่วยลดรอยแดงบนใบหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • Concentrate Multi Vitamins
    มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส ลดฝ้ากระจุดด่างดำ
    ช่วยลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว
    ช่วยสมานแผลและเร่งการสร้างเนื้อเยื่อชั้นผิวใหม่ ลดการอักเสบของผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ผิวที่เป็นสิว เป็นแผล เป็นผื่นคัน มีอาการแพ้
  • ASTAXANTIN สาหร่ายสีแดง มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามิน E กว่า 100 เท่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี โดยเฉพาะรังสี UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

วิธีใช้งาน

ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ เช้าและก่อนนอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด หากต้องออกแดดแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้า Tel : 02-017-7888
หรือจะเป็นช่องทางออนไลน์ต่างๆ

Shopping Cart