แดดประเทศไทยน่ะเหรอคะ? บอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ! 🔥 ไม่ว่าจะนั่งทำงานในออฟฟิศจิบกาแฟสวยๆ หรือออกไปสู้ชีวิตข้างนอก ‘ครีมกันแดด’ ก็คือเพื่อนแท้ที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด!
แต่เคยเป็นมั้ย? ซื้อตามรีวิวมา…แต่ทำไมหน้าเทาเป็นยากูซ่า! 😫 บางขวดก็เหนียวจนทอดไข่ได้ บางตัวก็บอกว่าดี แต่ใช้แล้วสิวบุกไม่พัก! เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้นะคะซิส!
วันนี้เราจะมาสวมบท “ตัวแม่” เปิดคัมภีร์เลือกซื้อครีมกันแดดฉบับจับมือทำ! กับ 5 เคล็ดลับสุดจึ้ง ที่จะทำให้การเลือกซื้อครีมกันแดดขวดต่อไปของคุณง่ายเหมือนดีดนิ้ว และปังเหมือนมีสปอตไลท์ส่วนตัว! ✨
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggle1. ถอดรหัสลับบนขวด! SPF และ PA คืออะไรกันแน่?
เห็นตัวย่อพวกนี้แล้วอย่าเพิ่งตาลายค่ะ! มันคือ Bodyguard ส่วนตัวของผิวเราเลยนะ
☀️ SPF เกราะป้องกันผิวเบิร์น (UVB)
จำง่ายๆ B = Burn! รังสี UVB นี่แหละตัวการที่ทำให้ผิวเราไหม้ แสบแดงหลังออกแดด ค่า SPF (Sun Protection Factor) คือตัวเลขที่บอกว่ากันแดดจะปกป้องผิวเราจากอาการเบิร์นได้นานแค่ไหน
- SPF 30 กัน UVB ได้ประมาณ 97% เหมาะกับวันชิลๆ ในออฟฟิศ เดินห้างสวยๆ
- SPF 50 / 50+ กัน UVB ได้ประมาณ 98% เหมาะกับวันที่ต้องลุยกิจกรรมกลางแจ้ง ท้าแดด ท้าลม
☀️ PA ผู้พิทักษ์ความอ่อนเยาว์ (UVA)
จำง่ายๆ A = Aging! รังสี UVA ร้ายลึกกว่าเยอะ! เพราะมันส่องทะลุเมฆ ทะลุกระจกเข้ามาทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดริ้วรอย ความเหี่ยว ความหมองคล้ำ ฝ้ากระ! ค่า PA (Protection Grade of UVA) เลยสำคัญมาก!
- PA+ ถึง PA++ สำหรับวันสบายๆ ไม่เจอแดดจัด
- PA+++ ถึง PA++++ ต้องมี! ยิ่งบวกเยอะ ยิ่งป้องกันความแก่ได้ดีเยี่ยม! สำหรับแดดประเทศไทย…หาบวกเยอะๆ ไว้ก่อนเลยค่ะ อุ่นใจ!
2. Physical vs. Chemical เลือกทีมไหนให้ผิวเราแฮปปี้?
กันแดดหลักๆ มี 2 ทีมค่ะ แต่ละทีมมีสไตล์การทำงานไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าผิวเราเหมาะกับทีมไหน!
🛡️ ทีม Physical สายสะท้อน (Mineral Sunscreen)
- หลักการทำงาน เหมือนเราใส่เกราะให้ผิว! เนื้อครีมจะเคลือบผิวไว้ แล้ว “สะท้อน” รังสี UV ออกไปเลย
- ส่วนผสมหลัก มองหาคำว่า Zinc Oxide, Titanium Dioxide
- ข้อดี อ่อนโยนมากกก! โอกาสแพ้น้อยสุดๆ เหมาะกับชาวผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือคนที่เป็นสิวง่าย
- ข้อเสีย บางสูตรอาจจะทิ้งความขาวไว้บนผิว ถ้าเกลี่ยไม่ดีอาจมีอาการ “หน้าลอย” ได้
🧪 ทีม Chemical สายดูดซับ
- หลักการทำงาน เป็นเหมือนสายลับ! เนื้อครีมจะ “ดูดซับ” รังสี UV เข้าไป แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
- ส่วนผสมหลัก Avobenzone, Oxybenzone, Octinoxate
- ข้อดี เนื้อสัมผัสมักจะบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาว สบายผิวสุดๆ
- ข้อเสีย บางคนอาจเกิดการระคายเคืองกับส่วนผสมบางตัวได้
เลือกยังไงดี? >> ถ้าผิวแพ้ง่ายมาก ไปทีม Physical เลยค่ะ ปลอดภัยไว้ก่อน แต่ถ้าเน้นสบายผิว ไม่ชอบความเหนอะหนะ ทีม Chemical คือคำตอบ!
3. พลิกหลังกล่องสแกน! ส่วนผสมไหนควรมี ส่วนผสมไหนควรหนีไป!
เป็น “ตัวแม่” ต้องอ่านส่วนผสมเป็นค่ะ! ไม่ต้องจำทั้งหมด แต่จำ Key Players เหล่านี้ไว้เลย
✨ ทีมควรมองหา (The Heroes)
- Antioxidants (วิตามิน C, E, Ferulic Acid) ช่วยเสริมพลังให้กันแดด ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากมลภาวะไปอีกขั้น!
- Niacinamide ตัวแม่ด้านการปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง ลดการอักเสบ แถมยังช่วยคุมมันได้ด้วย
- Hyaluronic Acid / Ceramide ทีมเติมน้ำให้ผิว! ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านระหว่างวัน
❌ ทีมควรเลี่ยง (ถ้าผิวไม่แข็งแรงจริง)
- Oxybenzone เป็นส่วนผสมในกันแดด Chemical ที่บางคนอาจแพ้ และยังมีประเด็นเรื่องผลกระทบต่อปะการังด้วย
- น้ำหอม (Fragrance) และ แอลกอฮอล์ (Alcohol) สองตัวท็อปที่มักกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองสำหรับชาวผิวแพ้ง่าย
4. จับคู่เนื้อกันแดด ให้เจอ “เนื้อคู่” ที่ใช่สำหรับผิว!
ต่อให้ส่วนผสมดีแค่ไหน แต่ถ้าเนื้อสัมผัสไม่ถูกกับผิว ก็พังได้! มาเลือกเนื้อให้เหมาะกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์กัน
- ผิวมัน / เป็นสิวง่าย มองหาเนื้อ เจล, ฟลูอิด, หรือแบบน้ำ ที่บางเบาเหมือนไม่ได้ทา! พลิกหลังกล่องหาคำว่า “Oil-Free” (ไม่มีน้ำมัน) และ “Non-comedogenic” (ไม่ทำให้อุดตัน) คือใช่เลย!
- ผิวแห้ง จัดไปเลยค่ะ! เนื้อ ครีม หรือ โลชั่น ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูงๆ ทาแล้วผิวจะดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี ไม่แห้งแตกเป็นขุย
- ผิวแพ้ง่าย กลับไปหาเพื่อนเก่าอย่าง Physical Sunscreen (Mineral) ที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ จะปลอดภัย สบายใจที่สุด
- ไลฟ์สไตล์ก็สำคัญ!
- สายสปอร์ตเกิร์ล, ชอบกิจกรรม Outdoor: ต้องเลือกสูตร “Water-Resistant” (กันน้ำ) หรือ “Sweat-Resistant” (กันเหงื่อ) เท่านั้น!
- สาวออฟฟิศสวยๆ เลือกเนื้อบางเบาที่ไม่รบกวนเมคอัพ ทาแล้วแต่งหน้าต่อได้เลย ไม่เป็นคราบ
5. เช็กให้ชัวร์! “วันหมดอายุ” และสัญลักษณ์อื่นๆ ที่มากกว่าแค่ตัวเลข
เกือบจะหยิบใส่ตะกร้าแล้ว! เดี๋ยวก่อน! เช็กอีกนิดเพื่อความปัง
- ดูสัญลักษณ์กระปุกเปิดฝา (PAO) เคยเห็นรูปกระปุกเปิดฝาที่มีตัวเลขเขียนว่า 6M, 12M มั้ยคะ? นั่นคือ “อายุการใช้งานหลังเปิดขวด” ค่ะ! กันแดดส่วนใหญ่จะมีอายุ 6-12 เดือนหลังเปิดใช้นะคะ ถ้าใช้ขวดเก่าตั้งแต่ชาติที่แล้ว…ทิ้งเถอะค่ะลูกสาว! ประสิทธิภาพมันลดลงแล้ว
- มองหาสัญลักษณ์อื่นๆ
- Broad-Spectrum แปลว่าขวดนี้เริ่ด! กันได้ครบทั้ง UVA และ UVB
- Dermatologically Tested ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ช่วยเพิ่มความมั่นใจไปอีกระดับว่าอ่อนโยน (แต่ก็ไม่ได้การันตี 100% ว่าจะไม่แพ้นะคะ)
สรุป เช็กลิสต์ของตัวแม่ ก่อนจ่ายเงิน!
ทบทวน 5 ข้อสุดท้ายก่อนพาน้องขวดใหม่กลับบ้าน
✅ ค่ากันแดด SPF 30+ / PA+++ ขึ้นไปสถานเดียว!
✅ ประเภท ผิวแพ้ง่ายไป Physical, ชอบบางเบาไป Chemical
✅ ส่วนผสม มีสารบำรุงดีๆ เลี่ยงน้ำหอม/แอลกอฮอล์
✅ เนื้อสัมผัส แมทช์กับสภาพผิว (มัน-เจล, แห้ง-ครีม) และไลฟ์สไตล์
✅ วันหมดอายุ & สัญลักษณ์ เช็ก PAO และมองหาคำว่า Broad-Spectrum
แค่จำ 5 ข้อนี้ให้ขึ้นใจ การเดินเข้าโซนกันแดดครั้งต่อไปของคุณจะไม่ใช่เรื่องน่าปวดหัวอีกต่อไป! คุณจะเลือกกันแดดได้เป๊ะปังเหมือนมือโปรมาเอง!
แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ มีวิธีเลือกกันแดดคู่ใจยังไง? หรือมีตัวไหนเป็น The Best ในดวงใจที่อยากจะป้ายยา? มาแชร์กันหน่อยที่คอมเมนต์เล้ยยย! 👇
ไม่ว่าจะเลือกช่องทางไหน คุณจะได้รับสินค้าแท้ 100% พร้อมบริการที่รวดเร็ว
บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดลิสต์ 5 สิ่งที่ต้องรู้! ก่อนซื้อครีมกันแดดขวดใหม่ บอกเลย…อ่านจบชีวิตเปลี่ยน!
แดดประเทศไทยน่ะเหรอคะ? บอ